ผู้เล่นที่ยังค้าแข้งในลีกเมืองกระทิงจนถึงปัจจุบันมีใครสร้างผลงานโดดเด่นในช่วงปีที่ผ่านมาบ้างไปตามดูกันครับ
มันเป็นอีกหนึ่งปีสำคัญสำหรับฟุตบอล ลา ลีกา หลัง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ของลีกเมืองกระทิงตัดสินใจย้ายออกจาก เรอัล มาดริด ไปค้าแข้งกับ ยูเวนตุส ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
การจากไปของซุปตาร์ชาวโปรตุกีสคงทำให้ สีสัน ความน่าตื่นเต้นเร้าใจลดลงไปไม่น้อย แต่ใช่ว่าลีกเมืองจะไม่น่าสนใจแต่อย่างใดเพราะยังคับคั่งไปด้วยแข้งระดับพระกาฬนำขบวนโดย ลิโอเนล เมสซี่ ซุปตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ของ บาร์เซโลน่า รวมถึงแข้งดาวเด่นอย่าง แกเร็ธ เบล ของ เรอัล มาดริด กับ อองตวน กรีซมันน์ ของ แอตเลติโก มาดริด เป็นต้น
นี่คือการนำเสนอนักเตะที่ค้าแข้งอยู่บนเวทีลีกา 50 คนแรกที่ทำผลงานโดดเด่นในช่วงปีที่ผ่านมา
50.มาร์กอส ยอเรนเต้ (เรอัล มาดริด)
ยอเรนเต้ เดินตามรอยคุณพ่อและคุณลุง (ปาโก้ เคนโต้) ซึ่งต่างเล่นให้ เรอัล มาดริด เขาได้โอกาสลงเล่นช่วงที่ การ์ลอส กาเซมีโร่ บาดเจ็บและทำผลงานน่าประทับใจจนเป็นแข้งอนาคตของทีมชุดขาว
49.บอร์ฆา อีเกลเซียส (เอสปันญ่อล)
ตอนนี้เขาเป็นนักเตะแตกต่างจากที่เล่นกับ เรอัล ซาราโกซ่า ด้วยสัญญายืมตัวซีซั่นก่อนหลังมีส่วนในการทำประตูสำคัญหลายครั้งให้ทีมนกแก้วบินสูงในช่วงต้นซีซั่นและเข้ามาทดแทนบทบาทของ เคราร์ด โมเรโน่ ที่ย้ายกลับบียาร์เรอัลอย่างสมบูรณ์แบบ
48.มาร์โก อาเซนซีโอ (เรอัล มาดริด)
อาเซนซีโอ มีบทบาทในทีมชุดแรกน้อยลงในซีซั่นนี้ แต่หนุ่มมาร์โกยังแสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ทุกครั้งที่ได้โอกาสลงสนามเพียงแต่ดาวรุ่งวัย 22 ปีต้องเรียกความมั่นใจเหมือนที่ทำได้ดีในช่วงแรกกลับมาเท่านั้น
47.อินญีโก้ มาร์ตีเนซ (แอธเลติก บิลเบา)
หลังย้ายข้ามฟากมาจากทีมคู่ปรับร่วมแคว้น เรอัล โซเซียดาด เขามีส่วนช่วยเกมป้องกันที่รั่วของ แอธเลติก บิลเบา กลับมาเล่นเหนียวแน่นขึ้น แม้ภาพรวมของทีมยังไม่ดีนักก็ตาม
46.อเล็กซ์ บีดาล (เซบีย่า)
หลังไม่สามารถลงหลักปักฐานในบาร์เซโลน่าอย่างที่คาดหวัง อเล็กซ์ บีดาล กลับมาแจ้งเกิดใหม่กับทีมเซบียาโน่อีกครั้ง ซึ่งเขามีส่วนสำคัญกับการเล่นเกมสวนกลับเร็วของ เซบีย่า เหมือนที่เคยทำได้ดีก่อนย้ายไปบาร์ซ่าปี 2016
45.โรเจอร์ มาร์ตี้ (เลบันเต้)
เขาใช้เวลาส่วนใหญ่เล่นอยู่ในเซกุนด้า ก่อนจะสร้างชื่อให้หลายคนรู้จักจากการทำผลงานโดดเด่นในซีซั่นนี้หลังมีส่วนช่วย เลบันเต้ ขยับขึ้นมาเป็นทีมครึ่งบนของตาราง
44.ฟีลีเป้ ลุยส์ กาสมีร์สกี้ (แอตเลติโก มาดริด)
แบ็กซ้ายชาวบราซิเลียนโลดแล่นอยู่บนเวทีลูกหนังมาเป็นเวลานาน แต่เขายังมีพลังทั้งการต่อสู้และเข้าสกัดคู่แข่งไม่แตกต่างจากตอนที่ยังหนุ่มแน่น
43.มารีโอ เอร์โมโซ่ (เอสปันญ่อล)
อดีตแข้งทีมเยาวชนของ เรอัล มาดริด กลายเป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่งในแนวรับทีมนกแก้วและจากการทำผลงานยอดเยี่ยมทำให้เขาถูก หลุยส์ เอ็นรีเก้ เรียกตัวติดทีมชาติสเปนครั้งแรกในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
42.โฆเซ่ หลุยส์ กาย่า (บาเลนเซีย)
ผลผลิตจากทีมเยาวชนบาเลนเซียที่ก้าวขึ้นมาเป็นขุมกำลังหลักของทีมชุดใหญ่ในปัจจุบันและถูกจับตามองว่า โฆเซ่ หลุยส์ กาย่า จะก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในแบ็กซ้ายดีสุดของสเปนในอนาคต
41.อันเดร ซิลวา (เซบีย่า)
หลังพบช่วงเวลาที่ยากลำบากกับ มิลาน ก่อนย้ายมาค้าแข้งกับ เซบีย่า ด้วยสัญญายืมตัว อันเดร ซิลวา แปลงโฉมมาเป็นกองหน้าอันตรายและทำประตูอย่างต่อเนื่องกับทีมเซบียาโน่
40.มักซี่ โกเมซ (เซลต้า บีโก้)
หัวหอกดาวรุ่งชาวอุรุกวัยสร้างชื่อจากแข้งโนเนมกลายเป็นนักเตะที่น่าจับตามองจากการทำผลงานเด่นกับทีมดังเมืองบีโก้นับตั้งแต่ย้ายมาจาก เดเฟนซอร์ สปอร์ติ้ง และน่าจะถูกสโมสรใหญ่ดึงตัวเข้าสังกัดในอนาคต
39.ดีเอโก้ ยอเรนเต้ (เรอัล โซเซียดาด)
เขากลายเป็นแนวรับที่น่าเชื่อถือของ เรอัล โซเซียดาด นับตั้งแต่ย้ายมาจาก เรอัล มาดริด และจากการทำผลงานน่าประทับใจทำให้ ดีเอโก้ ยอเรนเต้ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของทีมชาติสเปนยุค หลุยส์ เอ็นรีเก้
38.เอเวร์ บาเนก้า (เซบีย่า)
มิดฟิลด์ชาวอาร์เจนไตน์ทำผลงานโดดเด่นในฤดูกาลนี้มีส่วนร่วมทั้งเกมรุกและรับ เขาเป็นส่วนสำคัญต่อการไขว่คว้าความสำเร็จของทีมเซบียาโน่ แต่นักเตะกำลังตกเป็นเป้าหมายของ อาร์เซน่อล หลังนายเก่า อูไน เอเมรี่ ต้องการดึงบาเนก้าไปร่วมงานกันอีกครั้ง
37.เกย์ลอร์ นาวาส (เรอัล มาดริด)
แม้จะกลายเป็นตัวสำรองในยุคของ ซานติอาโก้ โซลารี่ จนมีข่าวว่านายทวารทีมชาติคอสตาริกากำลังคิดถึงการย้ายทีม แต่ผลงานของ นาวาส ที่มีส่วนช่วย เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ยุโรป 3 สมัยติดต่อกันยังสร้างความประทับใจให้สาวกมาดริดิสต้าจนถึงปัจจุบัน
36.โรดรีโก้ โมเรโน่ (บาเลนเซีย)
โรดรีโก้ ทำผลงานยอดเยี่ยมตลอดปีที่ผ่านมาและกลายเป็นตัวหลักของทีมชาติสเปนหลัง ดีเอโก้ คอสต้า มีปัญหาบาดเจ็บและหลุดฟอร์ม หนุ่มโรดรีโก้ยังเป็นหัวใจสำคัญในแนวรุกของบาเลนเซียด้วย
35.เจฟเฟร่ กงด็อกเบีย (บาเลนเซีย)
บาเลนเซีย ฟื้นคืนชีพกลับมาจนคว้าตั๋วไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกสำเร็จส่วนหนึ่งมาจากผลงานของ กงด็อกเบีย ที่ย้ายมาจาก อินเตอร์ มิลาน ด้วยสัญญายืมตัว ก่อนทีมค้างคาวจะเซ็นสัญญาถาวรกับนักเตะ
34.ฆอร์เค่ เรซูร์เรกซิออน โกเก้ (แอตเลติโก มาดริด)
โกเก้ พบความผิดหวังในศึกฟุตบอลโลกช่วงกลางปีที่ผ่านมากับทีมชาติสเปน แต่เขายังเป็นขุมกำลังหลักของ แอตเลติโก มาดริด ยุค ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ สำหรับการไล่ล่าความสำเร็จในซีซั่นนี้
33.มาร์ก บาร์ตร้า (เรอัล เบติส)
บาร์เซโลน่า เขี่ยทิ้งไปอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ ก่อนที่ มาร์ก บาร์ตร้า จะย้ายกลับสเปนมาอยู่กับ เรอัล เบติส และกลายเป็นขุมกำลังหลักในแนวรับของทีมเบตีโก้ช่วยทำให้ทีมดังแคว้นอันดาลูเซียเล่นเกมป้องกันอย่างเหนียวแน่น
32.ดาเนียล เซบายอส (เรอัล มาดริด)
เซบายอส เคยเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ดีที่สุดของลีกเมืองกระทิงในช่วงที่ค้าแข้งกับ เรอัล เบติส ก่อนย้ายมาอยู่กับ เรอัล มาดริด ซึ่งเขายังต้องดิ้นรนเพื่อตำแหน่งตัวจริง แต่เมื่อได้โอกาสลงสนามเขาจะทำผลงานได้ดีเสมอ
31.ปาโบล ฟอร์นาลส์ (บียาร์เรอัล)
ฟอร์นาลส์ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับทีมเรือดำน้ำเหลืองไม่ว่าจะถูกส่งลงเล่นตรงไหนทั้งมิดฟิลด์ตัวกลางหรือตัวริมเส้นจนตกเป็นเป้าหมายของ บาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด รวมถึง อาร์เซน่อล
30.ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ (แอตเลติโก มาดริด)
แข้งดีกรีแชมป์โลกกับทีมชาติฝรั่งเศสเป็นขุมกำลังหลักในแนวรับของ แอตเลติโก มาดริด จากฟอร์มยอดเยี่ยมของเขาทำให้ บาเยิร์น มิวนิค จ้องดึงตัวไปร่วมทีมโดยพร้อมจ่ายค่าฉีกสัญญานักเตะมูลค่าสูงถึง 80 ล้านยูโร
29.อีสโก้ อาลาร์กอน (เรอัล มาดริด)
อีสโก้ หลุดเป็นตัวสำรองในยุคของ ซานติอาโก้ โซลารี่ ที่ก้าวขึ้นมาเป็นเทรนเนอร์คนใหม่ของ เรอัล มาดริด หลังการปลด จูเลน โลเปเตกี ออกจากตำแหน่งเนื่องจากนักเตะเล่นไม่เข้ากับระบบของเทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์ แต่ อีสโก้ ยังเป็นนักเตะที่มีมนต์สะกดตามแนวทางการเล่นของเขา
28.ดาเนียล ปาเรโฆ (บาเลนเซีย)
กัปตันทีมค้างคาวรับบทเพลย์เมคเกอร์ จ่ายบอลแม่นยำ, มีวิสัยทัศน์และเล่นด้วยความแน่นอน ดาเนียล ปาเรโฆ มีส่วนสำคัญที่ทำให้บาเลนเซียหวนคืนสู่เวทีแชมเปี้ยนส์ลีกตามเป้าหมาย
27.โฮเซ่ มาเรีย คีเมเนซ (แอตเลติโก มาดริด)
คีเนเมซ เป็นอีกหนึ่งเซนเตอร์ที่แข็งแกร่งของทีมชาติอุรุกวัยและทัพตราหมีและมีโอกาสก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในกองหลังดีที่สุดในอนาคต
26.ราฟาแอล วาราน (เรอัล มาดริด)
วาราน ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่กับทีมชาติฝรั่งเศสและทัพ'โลส บลังโกส'เพียงแต่แนวรับชาวฝรั่งเศสมีปัญหาบาดเจ็บบ่อยครั้งเท่านั้น แต่ถ้าฟิตสมบูรณ์เขาจะเป็นหนึ่งในเซนเตอร์ดีที่สุดในโลกแน่นอน
25.ดีเอโก้ โกดิน (แอตเลติโก มาดริด)
โกดิน มีปัญหาบาดเจ็บบ่อยขึ้นเนื่องจากอายุอานามแตะหลัก 32 ปีแล้ว แต่เขายังเป็นหนึ่งในเซนเตอร์ดีที่สุดบนเวทีลูกหนังทั้งระดับชาติและสโมสร
24.มาร์ก อันเดร แทร์ ชเตเก้น (บาร์เซโลน่า)
นายทวารทีมชาติเยอรมันเป็น 1 ใน 3 นักเตะดีที่สุดของ บาร์เซโลน่า ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา แทร์ ชเตเก้น โชว์ชอตเซฟประตูสำคัญหลายครั้งหลายหนซึ่งมีส่วนช่วยทีมอาซูลกราน่าลุ้นความสำเร็จทุกรายการในซีซั่นนี้
23.ฟิลิปเป้ กูตินโญ่ (บาร์เซโลน่า)
กูตินโญ่ เริ่มต้นกับ บาร์เซโลน่า ได้อย่างยอดเยี่ยมและยิงประตูสวยๆหลายครั้ง แต่ดาวเตะชาวบราซิเลียนยังต้องพิสูจน์ว่าเขามีความคุ้มค่ากับการลงทุนของสโมสรหลังบาร์ซ่าจ่ายเงิน 145 ล้านยูโรดึงมาจาก ลิเวอร์พูล
22.โรดรีโก้ เอร์นานเดซ โรดรี (แอตเลติโก มาดริด)
โรดรี ปักหลักกับ แอตเลติโก มาดริด ได้อย่างมั่นคงหลังย้ายกลับมาจาก บียาร์เรอัล ซึ่งอาจเป็นเพราะเขาเคยเป็นนักเตะเยาวชนของทีมตราหมีจึงสามารถใช้เวลาปรับตัวไม่นานนัก
21.การ์ลอส กาเซมีโร่ (เรอัล มาดริด)
กาเซมีโร่ มีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จของ เรอัล มาดริด โดยเฉพาะการคว้าแชมป์ยุโรป 3 ปีติดต่อกัน มิดฟิลด์ชาวบราซิเลียนมีส่วนสำคัญกับเกมป้องกันของทีมชุดขาวและหลายครั้งยังเติมขึ้นมาทำประตูสำคัญให้กับทีมด้วย
20.คริสเตียน สตูอานี (คีโรน่า)
สตูอานี เป็นตัวเลือกสำรองในทีมชาติอุรุกวัยของ หลุยส์ ซัวเรซ กับ เอดินสัน กาวานี แต่เขาเป็นหัวใจสำคัญในแนวรุกของ คีโรน่า จากการทำผลงานยอดเยี่ยมทำประตูเป็นกอบเป็นกำจนทำให้ทีมเล็กๆจากแคว้นกาตาลุนย่ามีลุ้นแย่งตั๋วไปเล่นฟุตบอลยุโรปซีซั่นหน้า
19.เคราร์ด ปีเก้ (บาร์เซโลน่า)
ปีเก้ อำลาทีมชาติสเปนหลังเสร็จศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายครั้งที่ผ่านมา เขาทำผลงานไม่ดีนักกับทีมกระทิง แต่ยังโดดเด่นกับ บาร์เซโลน่า และยังเติมขึ้นมาทำประตูหลายครั้งในซีซั่นนี้ด้วย
18.แกเร็ธ เบล (เรอัล มาดริด)
เบล ก้าวขึ้นมาเป็นขุมกำลังสำคัญในแนวรุกของ เรอัล มาดริด หลังการอำลาทีมของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ถ้าหากกองหน้าชาวเวลส์สามารถสลัดอาการบาดเจ็บที่ตามรังควานมาโดยตลอดสำเร็จ เขาจะเป็นผู้เล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับสาวกมาดริดิสต้าแน่นอน
17.อุสมาน เดมเบเล่ (บาร์เซโลน่า)
ปีกทีมชาติฝรั่งเศสเป็นแข้งดาวรุ่งพรสวรรค์สูง แต่ยังมีปัญหาเรื่องความประพฤติขาดความเป็นมืออาชีพหลังเดินทางมาฝึกซ้อมสายบ่อยครั้ง อย่างไรก็ตามเขายังเป็นนักเตะที่มีประโยชน์กับการเล่นเกมรุกของทีมอาซูลกราน่าและยังยิงประตูสำคัญหลายครั้งให้ต้นสังกัดในซีซั่นนี้ด้วย
16.ซาอูล ญีเกซ (แอตเลติโก มาดริด)
หลังการย้ายออกทีมของ กาเบรียล เฟร์นานเดซ กาบี อดีตกัปตันทีมตราหมีทำให้ ซาอูล กลายเป็นมิดฟิลด์กำลังสำคัญของทีมตราหมี มีส่วนร่วมทั้งการเล่นเกมรุกและเกมรับ บางครั้ง ซิเมโอเน่ ยังส่ง ซาอูล ลงเล่นในแนวรับยามที่ทีมมีปัญหาด้วย
15.จอร์ดี้ อัลบา (บาร์เซโลน่า)
อัลบา ยังทำผลงานได้ตามมาตรฐานในการเล่นกับ บาร์เซโลน่า โดยเฉพาะการเติมเกมรุกทางกราบซ้ายสอดประสานกับ ลิโอเนล เมสซี่ ได้อย่างยอดเยี่ยมจนมีส่วนร่วมกับการทำประตูหลายครั้งในฤดูกาลนี้
14.ดาเนียล การ์บาฆาล (เรอัล มาดริด)
การ์บาฆาล มีปัญหาบาดเจ็บและอาการป่วยตลอดช่วง 15 เดือนที่ผ่านมา แต่ถ้าฟิตสมบูรณ์ เขาจะเป็นหนึ่งในแบ็กขวาดีที่สุดในโลกลูกหนังและถูกวางตัวเป็นกัปตันทีมชุดขาวคนต่อไปแทน เซร์คิโอ รามอส
13.ซามูแอล อุมตีตี้ (บาร์เซโลน่า)
อุมตีตี้ โชว์ฟอร์มเด่นกับ บาร์เซโลน่า และกลายเป็นขวัญใจของสาวกบาร์เซโลนิสต้าในเวลาไม่นานนัก เขายังมีส่วนสำคัญต่อการคว้าแชมป์โลกของทีมชาติฝรั่งเศส แม้ว่าตอนนี้ยังมีปัญหาบาดเจ็บเข่าซ้าย แต่เซนเตอร์ชาวฝรั่งเศสน่าจะพร้อมกลับมาช่วยต้นสังกัดไล่ล่าความสำเร็จในซีซั่นนี้
12.อีวาน ราคิติช (บาร์เซโลน่า)
ราคิติช มีส่วนสำคัญในแดนกลางของ บาร์เซโลน่า ทั้งเกมรุกและรับ เขายังลงเล่นมากถึง 71 เกมในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมามากกว่านักเตะระดับท็อปทุกคนในยุโรป มิดฟิลด์ชาวโครแอตยังเติมขึ้นทำประตูสวยๆหลายครั้งในฤดูกาลนี้ด้วย
11.โทนี่ โครส (เรอัล มาดริด)
โครส เป็นหนึ่งในการทำธุรกิจที่ยอดเยี่ยมของ เรอัล มาดริด หลังจ่ายเงินเพียง 25 ล้านยูโรดึงมาจาก บาเยิร์น มิวนิค หลังศึกฟุตบอลโลกปี 2014 มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมันเล่นสอดประสานกับ ลูก้า โมดริช จนนำทีมชุดขาวกอบโกยความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ทั้งกับทีมและรางวัลส่วนตัว
10.เซร์คิโอ รามอส (เรอัล มาดริด)
รามอส เป็นหัวใจสำคัญในแนวรับของ เรอัล มาดริด เขาเป็นกองหลังที่ครบเครื่องทำได้ทุกอย่างเพื่อทีม มีความเป็นผู้นำสูง แม้บางครั้งจะมีปัญหาในการควบคุมอารมณ์อยู่บ้างก็ตาม แต่รามอสยังเป็นเซนเตอร์ในแบบฉบับที่เทรนเนอร์หลายคนต้องการมีอยู่ในทีมของพวกเขา
9.เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ (บาร์เซโลน่า)
บุสเก็ตส์ พิสูจน์ให้เห็นคุณค่ามาตลอดหลายปีที่ผ่านมากับ บาร์เซโลน่า และทีมชาติสเปน เขาเพิ่งลงเล่นเกมทางการกับสโมสรครบ 500 นัดนับตั้งแต่ที่ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2008 และยังเป็นขุมกำลังหลักของทีมอาซูลกราน่าจนถึงปัจจุบัน
8.ยาน โอบลัค (แอตเลติโก มาดริด)
โอบลัค วัยเพียง 25 ปี แต่เขาคว้ารางวัล'โตรเฟโอ ซาโมร่า'หรือ รางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมแห่งปีของฟุตบอลลีกามาตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เขายังมีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จของทีมตราหมีโดยเฉพาะการคว้าแชมป์ยูโรปาลีกฤดูกาลที่ผ่านมา
7.ยาโก้ อัสปาส (เซลต้า บีโก้)
ไม่มีผู้เล่นคนไหนที่มีคุณค่าสำหรับสโมสรของเขาเหมือน ยาโก้ อัสปาส ที่ช่วยสร้างความตื่นเต้นกับ เซลต้า บีโก้ ตลอดช่วง 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมา เขาช่วยยิงประตูและสร้างปั่นป่วนแนวรับคู่แข่งหลังล้มเหลวในการค้าแข้งกับ ลิเวอร์พูล ก่อนกลับมาแจ้งเกิดอีกครั้งกับทีมดังแคว้นกาลีเซีย
6.หลุยส์ ซัวเรซ (บาร์เซโลน่า)
หลุยส์ ซัวเรซ กำลังอายุครบ 32 ปีในช่วงเดือนมกราคมนี้และมีปัญหาบาดเจ็บบ่อยครั้งทำให้ผลผลิตประตูของเขาลดน้อยลงตามสภาพสังขาร แต่เขายังคงมีบทบาทสำคัญในแนวรุกของทีมอาซูลกราน่าโดยเฉพาะการประสานงานของ ลิโอเนล เมสซี่ และยังต่อสู้ด้วยสปิริตช่วยสร้างแรงกระตุ้นให้ทีมเป็นอย่างดีด้วย
5.คาริม เบนเซม่า (เรอัล มาดริด)
กองหน้าชาวฝรั่งเศสลงเล่นกับ เรอัล มาดริด เป็นฤดูกาลที่ 10 แม้สาวกมาดริดิสต้าบางส่วนจะรู้สึกหงุดหงิดกับผลงานของเขาก็ตาม แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ารูปแบบการเล่นของ เบนเซม่า สร้างสรรประโยชน์ให้กับเกมรุกของทีมชุดขาว แม้เขาจะผลิตสกอร์น้อยก็ตาม แต่กองหน้าชาวฝรั่งเศสติดเป็น 1 ใน 4 ที่ยิงประตูให้ทีมมากสุดบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก
4.มาร์เซโล่ วิเอยร่า (เรอัล มาดริด)
มาร์เซโล่ ยังคงเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมในรุ่นของเขาแม้ว่าจะมีจุดอ่อนในการเล่นเกมป้องกันหลายครั้งก็ตาม แต่จุดแข็งของแบ็กซ้ายชาวบราซิเลียนคือการเติมขึ้นเล่นเกมรุกตามกราบซ้ายทั้งการเปิดบอลและการจบสกอร์ด้วยตัวเอง มาร์เซโล่ ยังมีบทบาทสำคัญในการนำต้นสังกัดคว้าแชมป์ยุโรป 3 ปีติดต่อกันด้วย
3.อองตวน กรีซมันน์ (แอตเลติโก มาดริด)
กรีซมันน์ มีปีที่น่าจดจำทั้งกับ แอตเลติโก มาดริด และทีมชาติฝรั่งเศส เขาอาจเริ่มต้นซีซั่นก่อนไม่ดีนักก่อนจะฟื้นฟอร์มกลับมาในช่วงคริสต์มาส ซึ่งมีส่วนช่วยทีมตราหมีคว้าแชมป์ยูโรปาลีก ตบท้ายด้วยการนำทีมตราไก่ฟาดแชมป์โลกสมัยที่สองจากเมืองหมีขาวในช่วงกลางปีที่ผ่านมา
2.ลูก้า โมดริช (เรอัล มาดริด)
นับเป็นปีทองของ โมดริช ที่ประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่สุดในอาชีพค้าแข้งหลังความสำเร็จกับ เรอัล มาดริด และนำทีมชาติโครเอเชียผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศของศึกฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านมา นั่นมีส่วนทำให้มิดฟิลด์ชาวโครแอตยุติการครองอำนาจบนเวทีลูกหนังตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมาของ เมสซี่ กับ โรนัลโด้ หลังการคว้ารางวัล'บัลลง ดอร์'และรางวัลส่วนตัวอื่นอีกหลายสถาบัน
1.ลิโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า)
เมสซี่ ยังคงเป็นนักเตะที่สร้างความตื่นเต้นและความแตกต่างได้เสมอ แม้อาจจะไม่ใช่ปีที่ดีสำหรับเขาก็ตาม แม้จะประสบความสำเร็จกับ บาร์เซโลน่า แต่ล้มเหลวกับทีมชาติอาร์เจนตินาและยังเสียรางวัล'บัลลง ดอร์'ให้โมดริชอีกด้วย แต่ถึงกระนั้นจากผลงานส่วนตัวส่วนของ เมสซี่ ทำให้เขายังคงเป็นนักเตะดีที่สุดของลีกเมืองกระทิงช่วงขวบปีที่ผ่านมา